27 พฤษภาคม 2555- นักวอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทย โชว์ฟอร์มร้อนแรงตบคิวบา

โตเกียว, 27 พฤษภาคม 2555- นักวอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทย โชว์ฟอร์มร้อนแรงตบคิวบา อดีตแชมป์โอลิมปิคสามสมัยซ้อน 3-1 เซ็ต 25-23, 25-23, 18-25, 25-21 โอกาสคว้าตั๋วโอลิมปิคลอนดอนเกมส์สดใสขึ้นมาทันที แต่แม้ชนะคิวบา ไทยก็ต้องรอลุ้นคู่ญี่ปุ่นกับเซอร์เบียเย็นนี้ ให้ญี่ปุ่นชนะเซอร์เบียกี่เซ็ตก็ได้ เพราะญี่ปุ่นจะติดสามอันดับแรกทันที ส่วนไทยจะได้ไปโอลิมปิคในฐานะทีมดีที่สุดของเอเชีย หรือไม่เช่นนั้นก็ต้องลุ้นให้ญี่ปุ่นแพ้เซอร์เบียแบบไม่มีแต้มคือ 3-0 หรือ 3-1 ไทยก็จะได้ไปเช่นเดียวกัน แต่ญี่ปุ่นตกรอบแทน


ขณะเดียวกันแม้ไทยจะชนะคิวบา 3-1 ก็จะไม่ได้ไปโอลิมปิคในกรณีเดียวคือ ญี่ปุ่นเกิดแพ้เซอร์เบียแบบมีคะแนน คือ 2-3 เซ็ต เพราะญี่ปุ่นจะมีคะแนนได้เสียดีกว่าไทยและไปในฐานะทีมดีที่สุดเอเซ๊ยแทนไทย

จากชัยชนะเหนือคิวบาในครั้งนี้ ไทยอยู่อันดับสี่ของตาราง มี 12 คะแนน แข่ง 7 นัด ชนะ 4 แพ้ 3 รัสเซียเล่นเป็นคู่ที่สองพบไต้หวัน เอาชนะไปได้สามเซ็ตรวด 25-14, 25-17, 25-17 ทำให้ไม่พ่ายทีมใดในรายการนี้เลย มี 21 คะแนนเต็มคว้าอันดับหนึ่งของรายการ ส่วนเกาหลีเจอเปรู และญี่ปุ่นเจอเซอร์เบียเป็นสองคู่สุดท้ายของการแข่งขันรายการนี้ ซึ่งทำให้ต้องลุ้นคะแนนกันจนนาทีสุดท้ายเลยทีเดียว

ชัยชนะของสาวไทยในวันนี้ ถือเป็นการย้ำแค้นให้สาวแดนทะเลแคริบเบียนอีกครั้งหลังจากสาวไทยยัดเยียดความปราชัยให้คิวบาสองครั้งติดเมื่อปีที่แล้ว ในรายการ World Grand Prix สนามแรกที่นครปฐม และสนามสามที่กรุงเทพฯ

นัดนี้ อรอุมา สิทธิรักษ์ ทำสกอร์สูงสุดให้ทีมไทย โดยทำได้ 20 คะแนน จากการตบอย่างเดียว 19 คะแนน ส่วนวิลาวัณย์ อภิญญาพงศ์ ตบได้ 17 คะแนน สำหรับทีมคิวบา ผู้ทำคะแนนสูงสุดคือโยอาน่า ปาตาซิออส เม็นโดซ่า ทำได้ 16 คะแนน



 


โดยหลังจบการแข่งขัน นายเกียรติพงษ์ รัชตเกรียงไกร “โค้ชอ๊อด” หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย ให้สัมภาษณ์ด้วยใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใสว่า “วันนี้เราเล่นเต็มที่ ทุ่มเท มีนักกีฬาบาดเจ็บด้วยคือปู มลิกา กันทอง ที่กล้ามเนื้อฉีกตั้งแต่เซ็ตแรก ก็ยินดีกับชัยชนะของทีมเราในวันนี้ เราทำเต็มที่ และเราจะทำให้ดียิ่งๆขึ้นไป

“สำหรับทีมไทยเรา ถือว่าเล่นหนักทุกนัดในรายการนี้ และชัยชนะที่ได้มาก็ไม่ง่ายเลย วันนี้เรากับคิวบาก็หนักมาก เขาเป็นทีมที่สุดยอดระดับโลก ดีใจกับนักกีฬาของเราที่ชนะในวันนี้ หวังว่าการแข่งขันที่นี่จะเป็นความทรงจำที่ดีของทีมเราต่อไป 10 ปี 20 ปี นับจากนี้ไป”

วิลาวัณย์ อภิญญาพงศ์ กัปตันทีม กล่าวให้สัมภาษณ์ในห้องแถลงข่าวว่า “เรารู้ว่าเราต้องชนะคิวบา 3-0 หรือ 3-1 เพื่อลุ้นไปโอลิมปิค แต่เราก็ไม่กดดันตัวเอง เราสนุกกับเกม เราอาจจะด้อยเรื่องรูปร่าง แต่เราก็เล่นรวมใจกันเป็นทีมที่มีใจเดียว ทำให้เราชนะและยิ้มได้ในทุกๆโอกาส แม้ว่าเราจะชนะหรือแพ้คะแนนในการแข่งขันก็ตาม เราก็ปลอบใจกัน รวมตัวกันให้สู้ใหม่ สำหรับไทยเรา เคยเล่นแม็ทช์ใหญ่ๆมาทุกรายการ ยกเว้นโอลิมปิค เพราะฉะนั้นโอลิมปิคจึงเป็นความฝัน ความหวังและเป็นทุกอย่างของเรา เป็นความภาคภูมิใจของพวกเราและเป็นความภาคภูมิใจของทุกๆคนในประเทศไทยด้วย สำหรับนัดนี้ทุกคนอยากชนะ แต่เราไม่กดดัน ทุกคนเต็มที่ มีความสุข ทำหน้าที่ของแต่ละคนให้เต็มที่ ได้ไปหรือไม่ได้ไป เราก็ดีใจสุดๆแล้ว”

หน่อง ปลื้มจิตร์ ถินขาว ซุเปอร์สตาร์ของทีมนักตบลูกยางสาวไทยกล่าวว่า “วันนี้ถือว่าเป็นงานหนักมาก เขาบล็อกดีมาก แต่เราก็เต็มที่ รอลุ้นอีกทีในนัดญี่ปุ่นกับเซอร์เบีย แต่เราก็มีโอกาสได้ไปโอลิมปิคสูงมาก คิดว่าเล่นกับคิวบาไม่ง่ายเลย คิวบาแข็งแกร่งมาก บล้อกดีมาก เราพยายามมากกว่าจะได้แต่ละแต้ม ชนะได้เราก็ดีใจ เราทำเต็มที่แล้วในวันนี้ สำหรับในเรื่องความกดดัน ความคาดหวังก็ยอมรับว่ามีมากในนัดนี้ เราต้องเล่นแบบหลังชนฝา แต่เราก็คุยกันในทีมว่าเราจะไม่เล่นกดดันตัวเอง เราพยายามเล่น ฟังแผนการเล่นจากโค้ช และเราก็ทำได้ สำหรับโอลิมปิค มันไม่ใช่แค่ความหวัง หรือฝันของเรา แต่มันเป็นทุกๆอย่าง เป็นความฝันและความหวังของทุกๆคนในประเทศไทย”

สำหรับอาการบาดเจ็บของปู มลิกา กันทองนั้น “คุณหมอต้น” นายแพทย์นรฤทธิ์ ล้วนจำเริญ แพทย์ประจำทีมไทย กล่าวว่าคงต้องให้พักอย่างน้อยสองสัปดาห์ ซึ่งอาจจะทำให้มลิกาชวดลงช่วยทีมแข่งขันรายการ World Grand Prix ในสนามแรกที่มาเก๊า ซึ่งจะเริ่มแข่งวันที่ 8 มิถุนายนนี้ แต่คิดว่าหากได้รับการพักกล้ามเนื้อขาและเยียวยาให้ดี ก็จะหายได้เร็วขึ้น สำหรับมลิกานั้น ช่วงการแข่งขันเกิดอาการตึงที่กล้ามเนื้อขาด้านซ้าย ต่อมาก็กลายเป็นตะคริว แต่เจ้าตัวยังคงอดทนฝืนเล่น จนกล้ามเนื้อฉีกในขณะแข่งขันเซ็ตที่หนึ่งเท่านั้น แต่ยังคงกัดฟันด้วยสปิริตเล่นจนจบแม็ทช์ ช่วยไทยชนะคิวบาไปได้

หลังจากให้สัมภาษณ์เสร็จ ทีมนักตบลูกยางสาวไทยก็เดินออกจากสนามแข่งขัน Tokyo Metropolitan Gymnasium โดยมีกองเชียร์ชาวไทย และแฟนคลับตามมาส่งขึ้นรถ ขอถ่ายรูปมากมาย ช่วงที่รถเริ่มเคลื่อนออกไป และไปเร็วขึ้น ระยะทางประมาณ 7-800 เมตร มีชาวญี่ปุ่นถือเศษกระดาษใบเล็กวิ่งตามรถมา ช่วงที่รถชะลอความเร็วเพราะต้องเลี้ยว หนุ่มญี่ปุ่นคนนี้ถึงได้วิ่งมาทัน และหน้ามืดเหมือนจะเป็นลมอยู่ข้างรถนักกีฬา รถทีมไทยจึงจอด เขารีบโค้งคำนับ และให้อ่านข้อความที่เขียนสั้นๆว่า สวัสดีครับ เป็นภาษาญี่ปุ่น ทราบภายหลังว่าหนุ่มญี่ปุ่นคนนี้เป็นแฟนวอลเลย์บอล เข้าไปดูในสนามแล้วชอบฝีมือสาวไทยมาก เลยวิ่งตามรถมาเกือบกิโลเพียงเพื่อจะเซย์ไฮ จนเกือบจะเป็นลมเลยทีเดียว นับว่ามีสปิริตสูงมาก แค่หวังได้พูดคุยกับนักตบลูกยางสาวไทยเล็กน้อยเท่านั้น

และพอรถมาจอดหน้า Keio Plaza Hotel ซึ่งเป็นโรงแรมที่พัก นักกีฬาทุกคนรวมทั้งมลิกาที่บาดเจ็บขาจนต้องเดินกระเผลกก็เริ่มออกวิ่งกลางแดดหน้าโรงแรม จำนวนเก้ารอบ แก้บนที่ชนะคิวบา ส่วนในตอนเย็น อำพร หญ้าผาก็จะวิ่งอีกเก้ารอบอีกครั้งหนึ่งพร้อมเพื่อนๆ

หลังจากนั้นก็รับประทานอาหารเที่ยง นักกีฬาออกไปเดินเที่ยวและช็อปปิ้งกันต่อ แต่ต้องกลับมาทานอาหารที่โรงแรมในเวลา 19.00 น. และดูแม็ทช์สุดท้ายระหว่างญี่ปุ่นและเซอร์เบีย เพื่อลุ้นตั๋วไปโอลิมปิคพร้อมกัน โดยสื่อมวลชนไทยขอมาถ่ายทำข่าวช่วงที่นักกีฬาดูแม็ทช์ดังกล่าวด้วย

ข่าวโดย ปรีชาชาญ วิริยานุภาพพงศ์
ภาพจาก FIVB