วันศุกร์ที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2554

ควันหลง World Grand Prix ในเมืองไทย กับมุมที่สมาคมวอลเลย์บอลไทยควรระวัง

จะปฏิเสธไม่ได้เลยว่ากระแสวอลเลย์บอลฟีเวอร์ในตอนนี้นั้น จุดกำเนิดมาจากการจัดการแข่งขันวอลเลย์บอลเวิลด์กรังปรีซ์ในประเทศไทย โดยในปีนี้นั้นไทยเราได้รับโอกาสให้เป็นเจ้าภาพถึง 2 สัปดาห์ โดยนครปฐมรับหน้าเสื่อจัดการแข่งขันสัปดาห์แรก ก่อนที่สัปดาห์สุดท้ายจะอยู่ที่เมืองหลวงกรุงเทพมหานคร โดยที่ทั้งสองสนามนั้นได้รับการตอบรับจากแฟนวอลเลย์บอลไทยเป็นอย่างดี กอรปกับผลงานอันยอดเยี่ยมของทีมหญิงไทย ทำให้กระแสวอลเลย์บอลฟีเวอร์จุดติดอย่างรวดเร็ว จนกระทั่งถึงวันนี้ ข่าววอลเลย์บอลมีให้อ่านแทบทุกประเภทสื่อ และรายการทีวีดังๆ แทบทุกช่องนั้นจะต้องมีพูดถึงวอลเลย์บอลหญิงไทย
ย้อนกลับมาที่การจัดการแข่งขันเวิลด์กรังปรีซ์ในประเทศไทย ถ้าจะบอกว่าประสบความสำเร็จไหม คงจะต้องตอบว่าประสบความสำเร็จอย่างดีเยี่ยม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสัปดาห์ที่ 3 ที่อาคารกีฬาเวสน์ 1 ศูนย์เยาวชนกรุงเทพมหานคร ซึ่งโรงยิมเนเซี่ยมที่จุคนได้ 3,800 คน กลับมีผู้ชมเบียดเสียดเข้าไปชมการแข่งขันถึง 7,000 กว่าคน เรียกได้ว่าแน่นจนไม่มีที่จะยืนเลยทีเดียว โดยถ้ามองในมุมคนจัดการแข่งขัน หรือสปอนเซอร์ คงจะยิ้มแก้มปริเลยทีเดียวที่มีคนสนใจมากขนาดนั้น
แต่...ถ้าในมุมมองของผมจากประสบการณ์การทำงานเกือบ 5 ปี ในสถานที่จัดแสดงคอนเสิร์ตและศูนย์แสดงสินค้าที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยนั้น คิดว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น นับว่ามีความเสี่ยงที่จะเกิดอันตรายเป็นอย่างมาก เพราะการปล่อยให้ผู้คนกว่า 7,000 คน เข้าไปบนอัฒจรรย์ที่จุคนได้เพียง 3,800 คนนั้น ไม่มีใครสามารถรับประกันได้เลยว่า ถ้าเกิดเหตุสุดวิสัยขึ้นนั้น ผลลัพธ์ที่ออกมาจะเป็นอย่างไร
โดยถ้าจะให้สมมติจากสถานการณ์เบาสุด เช่น มีคนเป็นลมจากการเบียดเสียด จนไปถึงหนักที่สุด เช่น อัฒจรรย์ถล่มลงมาเนื่องจากรับน้ำหนักไม่ไหว หรือแค่มีใครสักคนตะโกนออกมาว่า “ระเบิด” ก็อาจจะเกิดเหตุการณ์ชุลมุนขนาดเหยียบกันตายได้ ซึ่งจะเห็นตัวอย่างได้มากมายในต่างประเทศ
ดังนั้นการจัดการแข่งขันในปีต่อๆ ไป คณะกรรมการจัดการแข่งขันควรจะมีมาตรการรับมือกับจำนวนผู้ชมที่จะมาชมการแข่งขัน ผมมั่นใจว่าการจัดการแข่งขันวอลเลย์บอลระดับโลกในประเทศไทยนั้น มีคนต้องการเข้าชมมากแน่นอน ฉะนั้นถึงเวลาแล้วหรือยังที่จะคิดเตรียมการรับมือในตรงนี้ด้วย อย่ามองเพียงแค่เรื่องสภาพสนาม, โรงแรมที่พัก หรือการต้อนรับนักกีฬาต่างชาติเท่านั้น
คณะกรรมการฯ ควรจะมีมาตรการในการจำกัดผู้เข้าชมไม่ให้เกินจำนวนความจุของสนามกีฬา โดยอาจจะเป็น การย้ายไปแข่งขันยังสนามที่มีความจุมากขึ้น หรือจัดให้มีบัตรเข้าชมการแข่งขันและมีการสกรีนเฉพาะคนที่มีบัตรเท่านั้นที่จะเข้าสนามได้ โดยบัตรเข้าชมการแข่งขันนั้นจะจำหน่ายหรือแจกฟรีก็ได้
ไม่ใช่ว่าผมจะเป็นคนมองโลกในแง่ร้าย หรือต้องการดิสเครดิตคณะกรรมการจัดการแข่งขันอย่างสมาคมวอลเลย์บอลแห่งประเทศไทย แต่ผมอยากจะเป็นเสียงเล็กๆ เสียงหนึ่ง ที่อยากจะเตือนไปยังท่านผู้ใหญ่ในสมาคมฯ ทุกๆ ท่าน โปรดอย่ามองข้ามในประเด็นนี้ เพราะใช่ว่าพวกท่านจะโชคดีเสมอไป เพราะถ้าถึงจุดๆ นั้นแล้วคงไม่มีใครที่จะสามารถรับผิดชอบไหวแน่นอน...
เรียบเรียงโดย ทีมงานวอลเลย์บอลไทยแลนด์
ภาพโดย Es Akasia และ Chalinee Thirasupa (Jane)
<><><><> <><><><> <><><><>
120110909234146.jpg 120110910004211.jpg 220110910004212.jpg 320110910004212.jpg

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม